Daily News (Afternoon) วันที่ 15 พฤศจิกายน2558
Section : Entertainment
Page : 27
จีน่าคิดว่า การแสดงไม่น่าจะยาก นั่นคือสิ่งที่เราคิดคือไม่ยาก แต่พอได้ไปเล่นแล้วจะรู้เลยว่ายากมาก เพราะว่ามันต้องละเอียดมาก ๆ ทั้งคำพูด ท่าทาง สายตา ทุกอย่างต้องเนียน
“ญีนา ซาลาส” หรือ “จีน่า” สาวน้อยหน้าใส ที่กำลังมาแรงที่สุดจากละครเรื่อง “รัตนาวดี” ที่ออกอากาศอยู่ในขณะนี้ทางช่องพีพีทีวี กับบท “รัตนาวดี” ที่หลายคนถามถึงว่าสาวน้อยคนนี้เป็นใครมาจากไหน เอาล่ะ วันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับสาวน้อยน่ารักสดใสคนนี้ จีน่า ลูกครึ่ง ไทย-คิวบา ที่ตัวจริงขอบอกว่า สวย ซน สมวัย 15 ปี ของเธอจริงๆ
จีน่า เข้ามาเล่นละครได้อย่างไร?
“ก่อนมาเล่นละคร จีน่าได้ไปแคสหนังเรื่อง ผีห่า อโยธยา ของคุณชายอดัม แล้วก็เหมือนคาแรกเตอร์หลาย ๆ อย่างยังไม่ตรง แต่พี่อดัม เขาไปเรียกหม่อมกมลา ลงมาดู แล้วเขาก็บอกว่าเหมาะกับละครเรื่อง ปริศนา และ รัตนาวดี มากกว่า เล่นเรื่องปริศนา บทเป็นเด็กถักเปียอยุ่ แต่พอมา รัตนาวดี จะเป็ฯคนที่แบบจบทำงานแล้ว”
ก่อนหน้านี้สนใจเรื่องวงการไหม?
“สนใจค่ะ หนูเริ่มเข้าวงการตั้งแต่ 13 ตอนนั้นถ่ายโฆษณา แต่ว่าไปออกอินโดนีเซีย ตอนนั้นก็รู้สึกว่ายากนะ เพราะว่าเขาให้เราใช้จินตนาการเอา แต่เราก็อาศัยความสดใสของเราใส่เข้าไป (หัวเราะ) พอได้ถ่ายโฆษณาแล้วก็รู้สึกสนุกนะ เลยอยากจะลองทำงานด้านนี้ดู ก็พอพี่เขาพาไปแคสแล้วได้ลงละครปริศนา ก็รู้สึกดีใจมากค่ะ ก่อนที่จะถ่านกันพี่เาก็เอานิยายเรื่อง ปริศนา กับ รัตนาวดี มาให้อ่นก่อน โอ้…. เล่มใหญ่มาก ก็พออ่านแล้วสนุกดี”
เล่นยากมั้ยสำหรับละครเรื่องแรก?
“ปริศนา มีความยากเพราะว่าคำเราไม่คุ้นชิน ก็ต้องปรับพอสมควร แล้วพอมา รัตนาวดี ต้องเรียนแอ๊คติ้งเลยค่ะ ว่าในสมัยนั้นการเดิน การพูดเป็นยังไง และรัตนาวดี ต้องเรียนแอ๊คติ้งเลยค่ะ ว่าในสมัยนั้นการเดิน การพูดเป็นยังไง และรัตนาวดี เป็นถึงหม่อมเจ้าหญิง เราก็ต้องรู้ว่าเขาวางตัวยังไง ถามว่าเรื่องเหนื่อยมั้ย บอกเลยค่ะว่าเหนื่อยกันทุกคน เพราะว่าเราไปถ่ายเมืองนอกกัน 2 เดือนเต็ม ทำงานเป็นทีมกันมาก ๆ เหนื่อยก็เหนื่อยกันหมดค่ะ”
ละครออกอากาศแล้วมีเสียงตอบรับกลับมายังไงบ้าง ถ้าให้คะแนนตัวเองจะให้เท่าไหร่?
“มีคนชมค่ะ แต่ก็มีติมานิด ๆ หน่อย ๆ เรื่องคำควบกล้ำ ถ้าเต็ม 10 ให้ตัวเองสัก 8 เพราะว่ายังมีบางซีนที่รู้สึกว่ายังทำไม่ได้เต็มที่ เพราะว่าด้วยเวลา ด้วยสถานที่บีบังคับอะไรหลาย ๆ อย่าง คือตอนที่เราไปถ่ายที่ต่างประเทศ บางสถานที่เขาก็ให้แบบจำกัดจำนวนคน บางสถานที่ก็จำกัดเวลา เพราะฉะนั้นเวลาถ่ายมันก็เลยกดดันนิดหนึ่ง กังวลเรื่องเวลา กลัวจะไม่ทันด้วย คือมันอะไร ๆ หลายอย่างรวมกัน เลยคิดว่าเรายังไม่ได้คะแนนเต็ม 10 หรอก ยังต้องปรับปรุงและเรียนรู้อีกเยอะค่ะ กับศาสตร์ด้านการแสดง”
พ่อแม่ว่าอย่างไรบ้าง ละครออกแล้ว?
“ตอนนี้พ่ออยุ่เมืองนอก ส่งลิงก์ไปให้ดู เขาดู เขาก็บอกว่าใช่ลูกสาวพ่อหรือเปล่าเนี่ย เพราะว่าตอนปริศนา เราจะซนๆ ดื้อๆ เลย แต่พอรัตนาวดี เราจะนิ่งๆ เลย เขาก็แบบทำได้ไง ปกติไม่นิ่งขนาดนี้ (หัวเราะ)”
ขอถามเรื่องครอบครัวหน่อยนะคะ จีน่า เป็นลูกครึ่งหรือเปล่า?
“ใช่ค่ะ เป็นลูกครึ่ง ไทย-คิวบา คุณพ่อเป็นคิวบา จีน่า เกิดที่ญี่ปุ่นตอนนั้นพ่อทำงานเป็นโค้ชมวย แสน ส.เพลินจิต แล้วพอดีว่าคนญี่ปุ่นอยากให้พ่อไปเทรนให้ พ่อก็ยกครอบครัวไปกันหมดเลย ทั้งแม่ พี่ ๆ อีก 2 คน แล้วในช่วงนั้นคุณแม่ท้องจีน่าพอดี ก็คลอดที่โน่นเลย ก็เลยโตที่ญี่ปุ่น อยุ่ที่โน่น 9 ปี เลยค่ะ แล้วก็กลับมาอยุ่เมืองไทย ก็ยาวเลย จนถึงตอนนี้”
พ่อกับแม่ใครดุกว่ากัน
“คุณแม่ค่ะ รุณพ่อจะตามใจมากกว่า เพราะว่าจีน่าขี้อ้อนพ่อ (หัวเราะ) เพราะว่าเราเป็นลูกคนสุดท้อง แต่สำหรับคุณแม่ ทุกคนเท่ากันหมด ได้อะไรก็ได้เหมือนกัน เราใช้สิทธิลูกคนสุดท้องไม่ได้”
ที่บ้านเลี้ยงแบบไหน จริง ๆ จีน่า เป็นเด็กซนไหม
“จีน่าซนมากค่ะ เรียกว่าซนแบบร้ายกาจเลยดีกว่า ก็จะมีช่วงเรียนที่สารสาสน์เหมือนเป็นหัวโจกของห้องเลยช่วงนั้น แล้วห้องที่จีน่าเรียนอยุ่ดูจะเป็นห้องที่ซนที่สุดในชั้น คือ แบบพอพักเที่ยง ครูเขาจะให้นั่งโรงอาหาร แล้วจะประกาศว่าห้องไหนดื้อสุด ถ้าไม่มีห้อง 8 บี ฝนตกแน่ ๆ แล้วช่วงนั้นโดนมาหลายอาทิตย์มาก แล้วถูกงดพักเที่ยง ให้ขึ้นไปเรียนคณิตศาสตร์ แต่ว่าตอนนั้นเราก็แบบไม่อยากเรียนเลย อยากพัก จีน่าก็แบบพูดกับเพื่อนในกลุ่มว่า โดดมั้ย ๆ แล้วมันก็ขยายออกไปเรื่อย ๆ จนแบบพร้อมใจกันโดทั้งห้องเลยค่ะ หลังจากนั้นพักเที่ยงเสร็จอาจารย์เรียกเลยค่ะ วิ่งรอบสนาม สุดๆ เลยค่ะ ร้อนมาก เหนื่อยมาก แต่ถามว่าเข็ดมั้ย ก็ยังค่ะ (หัวเราะ) แต่ว่าก็เบาลง เพราะว่าวิ่งรอบสนามเหนื่อยมาก ๆ แต่ตอนนี้เลิกแสบแล้วค่ะ
จริง ๆ ที่บ้านจีน่าจะเลี้ยงแบบนักมวยเลยค่ะ คุณแม่คุณพ่อไม่ค่อยมีกฎเกณฑ์อะไร คุณแม่จะบอกว่าถ้าเราชอบที่จะทำอะไรก็ตามใจ ทำไปเลยไม่ว่าอะไร แต่ถ้าเป็นอะไรที่โตเกิน คุณแม่ก็จะช่วยคิดว่า อันไหนดีไม่ดี แต่ถ้าเป็นสิ่งของก็จะดูว่าเหมาะสมหรือเปล่า”
คุณพ่อเป็นนักมวย แล้วได้สอนให้เราบ้างไหม
“เคยลองอยุ่ค่ะ ตอนเด็กๆ เลย เขาก็จะสอนว่าเตะตรงไหนถึงไม่เจ็บ เราก็ลองนะ แต่พอพ่อเห็นช้ำมากๆ เขาก็บอกว่าอย่าเลยดีกว่า (หัวเราะ) แต่ก็พอได้มาบ้างค่ะ เอาตัวรอด”
แล้วเคยไปนั่งดูมวยที่เวทีจริงไหม
“ไปค่ะ ไปดูกันทั้งบ้าน ดูบ่อยมาก ดีนะไม่เป็นทอม อีกนิดหนึ่งค่ะ เกือบแล้ว (หัวเราะ)”
ได้ข่าวว่าตอนนี้ จีน่า มาเรียนโฮมสกูล แทน?
“ใช่ค่ะ เพราะว่าตอนที่ไปถ่ายละคร ต้องไป 2 เดือน ขออนุญาตทางโรงเรียนไม่ได้ เลยต้องหยุดเรียนไว้ค่ะ ตอนนี้จีน่าอยู่ ม.3 กำลังจะสอบเทียบชึ้น ม.4 ค่ะ ทางคุณแมงมุม เลยให้เรียนแบบโฮมสกูลไปก่อน ก็เรียนปกติทั่วไปเลยค่ะ ไทย วิทย์ คณิตศาสตร์ เหมือนเด็กทั่วๆไปเลยค่ะ แล้วพอจบคอร์สก็ไปหาเข้าเรียนชั้น ม.3 ต่อ แต่ว่าจะเป็นโรงเรียนอะไรนั้น ทางคุณแมงมุมกำลังหาให้อยุ่ค่ะ แต่จีน่าก็ตั้งใจไว้แล้วว่า ช่วงกลับมาจากถ่ายละครก็อยากจะเรียน จะไม่อยากหยุดค่ะ เพราะกลัวจะขี้เกียจ (หัวเราะ) กลัวลืมด้วยค่ะ”
ขอย้อนกลับไปนิดหนึ่งนะคะ ตอนที่คุณแมงมุม บอกว่าต้องหยุดเรียนต้อนนั้นพ่อแม่ไม่ว่าเหรอคะ?
“เขาก็ไม่ว่าค่ะ เพราะว่าโอกาสแบบนี้ไม่ได้หากันง่ายๆ ที่ไปถ่ายต่างประเทศถึง 4 ประเทศด้วยกัน ก็เหมือนได้ประสบการณ์ใหม่ๆ เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ไปอังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี ฝรั่งเศส คือถ้าถ่ายเมืองไทยก็คงไม่ดร็อปเรียนค่ะ แต่เมื่อโอกาสมาก็อยากลอง แต่ก็ไม่ได้หยุดเรียนไปเลย เดี๋ยวก็จะสอบเทียบเลยค่ะ แล้วอีกย่าง ตอนนี้พอละครออกอากาศ ก็เริ่มมีงานเข้ามา”
แล้วจีน่า แพลนอยากจะเรียนสายอะไร
“ยังไม่ได้คิดเลยค่ะ แต่ส่วนตัวจีน่าชอบวาดรูป ส่วนมหาวิทยาลัย ก็ยังไม่ได้คิดยาวขนาดนั้น แต่ก็คงดูว่าเราเหมาะกับอันไหน ควรเรียนที่ไหน”
พอได้มาเล่นละคร เนื้อหอมเลยมั้ย
“(หัวเราะ) โอ้ ก็พอละครออก เพื่อนๆ ในกลุ่มก็จะแซวทุกคนเลยค่ะว่าไม่เหมือนตัวจริงเลย เพราะว่าตัวเราจริงๆ จะเหมือนทอมมาก คือ จีน่า ไม่แต่งหน้า เสื้อยืด กางเกงยีน ไม่ใส่ส้นสูง ซนๆ หน่อย แต่พอไปถ่ายละคร คือต้องนิ่งเลย ใส่ส้นสูง ก็ไม่ได้รู้สึกว่าอึดอัดนะ แต่จะรู้สึกยากมากกว่า คือ จีน่าคิดว่า การแสดงไม่น่าจะยาก นั่นคือสิ่งที่เราคิด คือไม่ยาก แต่พอได้ไปเล่นแล้วจะรู้เลยว่ายากมาก เพราะว่ามันต้องละเอียดมากๆ ทั้งคำพูด ท่าทาง สายตา ทุกอย่างต้องเนียน
แต่ก็ยอกมรับค่ะว่ามีแอบเหนื่อย แอบท้อบ้างเหมือนกัน แต่ก็จะโทรฯ ไลน์หาแม่ แม่ก็จะบอกว่าเราไม่ได้เหนื่อยคนเดียว ทุกคนเหนื่อยหมด ทุกคนมีหน้าที่ให้รับผิดชอบ เพราะฉะนั้นอย่าท้อ”
แล้วตอนนี้มีหนุ่มๆ เข้ามาคุย หรือจีบเราบ้างไหม?
“(หัวเราะ) จะว่าไม่มีก็ดูโกหก ก็พอจะมีบ้างค่ะ ก็เป็นเพื่อนๆ ที่เรียนกันมา แล้วก็มีแบบพี่ๆ ที่เขาดูละครก็มีแซวๆ มาบ้าง เข้ามาคุยในอินสตาแกรม ก็มีเขินๆ บ้างค่ะ แต่ก็ดีใจมากกว่า ที่เขาดูละครแล้วชอบละครที่เราเล่น (หัวเราะ) แต่จริงๆ จีน่า ยังไม่อยากคุย เหมือนเรารู้สึกว่าตัวเองยังเด็กมาก ๆ ยังไม่อยากคิดเรื่องความรัก และอีกอย่างจีน่าเพิ่งเข้าวงการมา ยังอยากจะทำงาน ยังสนุกกับงานใหม่ๆ ที่เข้ามาให้เราได้เรียนรู้เลยไม่คิดเรื่องความรักเลยค่ะ”
โลกส่วนตัวสูงไหม
“ก็มีบ้างค่ะ ถ้าไม่สนิทก็จะไม่คุยเลย ก็จะฟังเพลงอย่างเดียว แต่ว่าพอไปถ่ายละคร เราต้องชวนพี่ๆ เขาคุยเลยค่ะ เพราะว่าเราทำงานด้วยกันมันต้องสนุกสนาน จีน่าก็จะร้องเพลงแซวพี่ๆ เลยค่ะ คือเงียบไม่ได้เลย เดียวอึดอัด (หัวเราะ)”
ชอบร้องเพลงแล้วอยากทำเพลงไหม แล้วชอบแนวไหน?
“โอ้ เรื่องทำเพลงไม่ขนาดนั้นค่ะ คือชอบเล่นๆ ฟังคนเดียว ร้องในห้องน้ำ แล้วอีกอย่างจีน่าชอบร้องเพลงเพื่อชีวิต คาราบาว พี่ปู-พงษ์สิทธิ์ คือหน้าตาจีน่าอย่างนี้ พอเขาเปิดเพื่อชีวิตมาร้องได้หมดเลย อาจจะเพราะว่าพี่ชายชอบฟัง เรานั่งอยู่ข้างๆ ก็พอเขาเปิดเราก็ฟังกับเขาด้วย จนร้องเป็น แต่จริงๆ จีน่า ฟังทุกแนวเลยนะ ลูกทุ่ง สากล แต่ชอเพื่อชีวิตที่สุด”
ได้ลองเล่นละครไปแล้ว ยังอยากจะลองทำงานด้านไหนอีก?
“อยากลองเล่นผีๆ ค่ะ แต่ถ้านั่งดูหนังผี ไม่กลัว เพราะรู้ว่ามันคือการแสดง แต่จีน่าคิดว่าถ้าได้ลองเล่นหนังผี มันต้องสนุกแน่ๆ เพราะว่ามันได้ใช้หลายอารมณ์ ทั้งตกใจ กลัว อยากหาทางออก เยอะแยะไปหมด น่าเล่นดี น่าลองค่ะ แต่ถ้าว่ากลัวผีก็ไม่ก็กลัวค่ะ แต่ถ้านั่งดูหนัง กลับไม่กลัว เพราะว่าคือการแสดง แต่จีน่าไม่เคยเจอผีนะ เคยแต่มีฝันแปลกๆ แล้วตื่นมายังจำชื่อคนที่เราเห็นได้ เล่าให้คุณแม่ฟัง เขาก็บอกให้ไปทำบุญ”
ถือว่าเป็นดาวดวงใหม่ที่สดใส และน่าจับตามองมากที่สุดอีกดวงหนึ่ง สำหรับ จีน่า-ญีนา ซาลาส คนนี้ และเราขอเป็นกำลังใจให้ดาวดวงใหม่ดวงน้อยๆ ดวงนี้ด้วยเช่นกัน ขอให้ตั้งใจทำงาน และพัฒนาฝีมือการแสดงเพื่อแฟนๆ ละครนะจ๊ะ