Khao sod (Afternoon) วันที่ 18 เมษายน 2558

Section : Entertainment

หน้า 20

   ได้ฤกษ์ดีจัดพิธีบวงสรวงไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับละครซีรีส์พีเรียดฟอร์มยักษ์สุดคลาสสิค "ปริศนา" "เจ้าสาวของอานนท์" และ "รัตนาวดี" จากช่องพีพีทีวี เอชดี ที่จะนำกลับมารีเมกในเวอร์ชั่น 2015 อีกครั้งภายใต้ "ศรีคำรุ้ง โปรดักชั่น" โดย 'คุณหญิงแมงมุม' ม.ร.ว.ศรีคำคุ้ง ยุคล รัตตกุล ที่ลงมือกำกับฯเองเรื่องแรกและถ่ายทำในสไตล์ภาพยนตร์โทรทัศน์ เน้นโปรดักชั่นเชิงภาพยนตร์ โดยจัดพิธีบวงสรวงที่สตูดิโอ สถานีโทรทัศน์ ดิจิตอล พีพีทีวี เอชดี

   พร้อมขนนักแสดงนำจากทั้ง 3 เรื่อง "ปริศนา" นำโดย หนุ่ม-ศรราม และนางเอกหน้าใหม่ 'เฟ' สุษมา กิติยากร ณ อยุธยา พร้อมด้วย นุกนิก-ปจิตรา, กบ-พิมลรัตน์,จิ๊บ-ปกฉัตร  ฯลฯ "เจ้าสาวของอานนท์" นำโดย โทนี่ รากแก่น, เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา, เจนนิเฟอร์ โรเบิร์ต, ธนศักดิ์ สำราญมน, ณัฐชา เจกะ ฯลฯ และ "รัตนาวดี" นำทีม โดยพระ-นางหน้าใหม่ 'กรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา' และ 'จีน่า' ญีน่า ซาลาม ร่วมด้วย ปิยะณัฐ แดงพูนผล ฯลฯ มาร่วมพิธีบวงสรวงพร้อมหน้า

   พิธีเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ดูท่านางเอกน้องใหม่ 'เฟ-สุษมา' ดูจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ แต่หน้าตาก็ยิ้มแย้ม เรียกว่าตรงคาแร็กเตอร์ 'ปริศนา' สุดๆ ทั้งร่าเริงและดูสนุกกับทุกอย่าง ซึ่งต่างจากพระเอกรุ่นพี่ 'หนุ่ม-ศรราม' ที่นิ่งและขรึมตลอดงาน โดยหลังจากเสร็จพิธีก็ร่วมกันถ่ายรูป ก่อนแยกย้ายไปสัมภาษณ์ตามอัธยาศัย

   พร้อมกันนี้ยังมีฉากเด็ดของละคร "ปริศนา" ที่ยกกองไปถ่ายทำกันที่โรงแรมบัดดี้ปากเกร็ด เป็นฉากร้านอาหารที่ 'ปริศนา' (เฟ-สุษมา) กับ 'อานนท์' (โทนี่ รากแก่น) ซึ่งกำลังจับมือถือแขนกันอยู่ แต่ 'ท่านชายพจน์' (หนุ่ม-ศรราม) เกิดเข้ามาเห็นเลยเข้าใจผิด งานนี้ 'หนุ่ม' ไม่ทิ้งความเก๋า แค่เดินเข้ามาแล้วแสดงสีหน้านิดๆ หน่อยๆ ผู้กำกับฯก็สั่งคัตได้ภาพที่พอใจ ต่อมานักแสดงก็เปลี่ยนชุดเป็นแนวสปอร์ตเข้าฉากตีเทนนิส ระหว่าง 'ท่านชายพจน์' และ 'อานนท์' ก่อนที่ 'ปริศนา' จะเดินเข้ามาทัก 'อานนท์' ดูผ่านๆ เหมือนจะเป็นการถ่ายทำฉากง่ายๆ แต่ที่ยากเห็นจะเป็นบรรยากาศที่ไม่เอื้ออำนวย เพราะเล่นกลางแจ้งแดดเปรี้ยงๆ ก่อนที่นักแสดงแต่ละคนไปวอร์มร่างกายกัน หันมาเห็น 'โทนี่' ที่วอร์มเล่นเทนนิสจนเหงื่อท่วมแล้ว เรียกว่า ถ่ายจริงไม่ต้องใช้เหงื่อปลอมกันเลย 

   ติดตามความสนุกแบบคลาสสิคกับละคร "ปริศนา" ปลายเดือนพฤษภาคมนี้ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ทางช่อง PPTV HD

ไทยโพสต์ X-cite   วันที่ 17-18 เมษายน 2558

Section : Entertainment

หน้า 10

เดินหน้าเปิดกล้องไปแล้วสำหรับซีรีส์ 3 เรื่อง 3 รส ปริศนา, เจ้าสาวของอานนท์ และรัตนาวดี โดยผู้จัดไฟแรงอย่างคุณหญิงแมงมุม-หม่อมราชวงศ์ศรีคำรุ้งยุคล ได้ออกมาปฏิเสธว่าละครชุดดังกล่าวไม่ได้โยกจากช่อง 3 ไปลงช่องพีพีทีวี

   "ที่มีข่าวว่าซีรีส์ 3 เรื่องคือ ปริศนา เจ้าสาวของอานนท์ และรัตนาวดี จะออนแอร์ช่อง 3 เรื่องนี้แมงมุมไม่ทราบจริง ๆ เหมือนกับว่าเรื่องค่ายเป็นผู้ใหญ่คุยกันแมงมุมลุยเรื่องโปรดักชั่นอย่างเดียว ที่บอกว่าวางตัวน้องเจมส์ จิ กับน้องญาญ่าก็ไม่มี เพราะแมงมุมทำแคสติ้งเอง มันอาจจะเป็นแค่กระแส

   แมงมุมเป็นอิสระ ทำได้ทุกช่อง ตอนนี้ร่วมงานกับช่อง 8 และช่องพีพีทีวี หน้าที่แมงมุมคือจะเป็นคนไปหาเรื่อง อยากทำเรื่องนี้ ผู้ใหญ่จะดูว่าเหมาะกับช่องไหนผู้ใหญ่เขาไปคุยกันเอง"

ไทยโพสต์ X-cite  วันที่ 16-17 เมษายน 2558

Section : Entertainment

หน้า 10

เข้ามาโลดแล่นในวงการบันเทิงอย่างเต็มตัว สำหรับกรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา หลานชายคนโปรดของ ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์  และการที่เป็นลูกหลานคนดัง ทำให้ถูกครหาว่าที่ได้มาโลดแล่นในวงการเพราะใช้เส้นสายของครอบครัว

“ผมอยู่บริษัทออลสตาร์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ดูแลนักแสดง สำหรับผมเป็นคนที่สนใจเรื่องการแสดง ซึ่งแรกๆ ยอมรับว่า ยังไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ได้ไปเรียน ทำให้เราชอบ อย่างละครรัตนาวดีที่ผมได้เล่นก็ไปแคสตามปกติเหมือนคนอื่นๅ พอมีโอกาสเราก็รีบคว้าไว้

เรื่องเส้นสายไม่มี แต่ยอมรับว่าด้วยนามสกุลดังก็มีบ้างที่เขาจะมองว่าเราเป็นเด็กเส้น แต่ผมไม่เคยใช้นามสกุลในการทำงานหรือเข้ามาในวงการนี้ตั้งแต่แรก แต่บริษัทเข้ามาหาผมเองโดยที่ไม่ผ่านใครทั้งนั้น ผมเคยพูดว่าถ้าใครติดต่องานผ่านมาทางลุงหรือทางญาติ ผมไม่รับเพราะเรารู้สึกว่าในโลกนี้ถ้าเราไม่ลองทำอะไรด้วยตัวเองก็จะไม่รู้ว่ามันยากแค่ไหน แล้วเราก็จะไม่เห็นค่าของมัน แต่ถ้าเราทำเองมันจะมีค่า”

ไทยโพสต์ X-cite  วันที่ 14-15 เมษายน 2558

หน้า 10-11

ถือเป็นผู้จัดหน้าใหม่ไฟแรงที่ถูกจับตามองมากที่สุดในขณะนี้ สำหรับ คุณหญิงแมงมุม-หม่อมราชวงศ์ศรีคำรุ้ง ยุคล รัตตกุล ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น ธิดาคนโตของท่านมุ้ย-หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล และหม่อมกมลา ยุคล โดยในปัจจุบันคุณหญิงแมงมุมได้เดินตามรอยท่านพ่อเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงแบบเต็มตัว ทั้งเป็นผู้จัดละครและผู้กำกับการแสดง

จะว่าไป คุณหญิงแมงมุมคลุกคลีอยู่กับกองถ่ายภาพยนตร์และกองละครมาตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ “แมงมุมเติบโตในกองถ่ายตั้งแต่จำความไม่ได้ แต่เห็นรูปและทุกคนเล่าให้ฟัง อยู่ในตะกร้าและอยู่ใต้โต๊ะมอนิเตอร์ พอจะเริ่มจำความได้ ก็จะเห็นที่บ้านจะมีคนนั่งคุยงาน คุยเรื่องบท คุยเรื่องสคริปต์ตลอดเวลา เลิกเรียนก็ไปกองถ่าย นั่นคือสนามเด็กเล่นของแมงมุม แล้วก็ดูหนังตั้งแต่เด็ก บ้านอื่นอาจมีกิจกรรมไปทานข้าวนอกบ้าน แต่บ้านแมงมุมคือการเข้าโรงหนังหรือนอนเล่นที่บ้านกับท่านพ่อ เราก็จะนอนดูหนัง เด็กคนอื่นพ่อแม่จะมีข้อกำหนดว่าดูได้เฉพาะการ์ตูน แต่ของแมงมุมดูหนังตั้งแต่เด็ก ดูทุกแนว แล้วท่านพ่อกับคุณแม่ก็จะอธิบายให้เราฟังตามไปด้วย”

ความผูกพันในครอบครัว

“ที่บ้านเลี้ยงมาแบบตีกรอบให้เรากว้างๆ ให้เรามีพื้นที่ในการคิดและเป็นตัวของตัวเอง คนอาจจะคิดว่าเราเป็นลูกสาวต้องถูกดูแลแบบคุณหนู แต่แมงมุมจะห้าวๆ เหมือนลูกชาย ค่อนข้างดูแลตัวเองได้ อีกอย่างแมงมุมไปอยู่เมืองนอกด้วยเลยค่อนข้างอิสระ  คิดอะไรทำอะไรได้ด้วยตัวเอง กับน้องชายก็ถูกเลี้ยงมาแบบเดียวกัน การที่เราเป็นลูกของท่านพ่อมีความกดดันมั้ย เด็กๆ จะรู้สึกว่าทำไมคนต้องมอง ต้องเอาเราไปเปรียบเทียบหรือพูดถึง แต่พอโตขึ้นเริ่มเข้าใจแล้ว ส่วนดีมีมากกว่าส่วนเสีย แมงมุมได้อยู่กับคนที่เก่งมากๆ คนหนึ่งของประเทศไทย ได้อยู่ซึมซับกับเขาตลอด และมีคุณแม่ที่เป็นโปรดิวเซอร์ด้วย ทั้งสองท่านเป็นตัวอย่างไม่ใช่แค่เรื่องงานอย่างเดียว เป็นตัวอย่างด้านใช้ชีวิตครอบครัวเหมือนกัน

ท่านทำงานกองถ่ายจะยุ่งมาก แต่ถึงจะงานยุ่งแค่ไหน ก็ไม่มีวันไหนที่ไม่มีเวลาให้ลูก ไม่เคยรู้สึกว่าพ่อแม่ไม่มีเวลาให้ ทั้งๆ ที่เขายุ่งมาก โทร.ไปเมื่อไหร่ก็ได้คุย เขาพร้อมเสมอ จะเจอก็ต้องได้เจอ ไม่มีการบอกว่าพ่อไม่ว่าง เดินไปหาเมื่อไหร่เขาพร้อมที่จะคุยกับเราเสมอ พร้อมที่จะให้คำแนะนำ รู้สึกว่าพูดอะไร คุยอะไรก็ได้ ทำให้เราโตขึ้นก็เป็นคนที่จัดสรรเวลาได้ดี ได้นิสัยแบบนี้มาจากท่านพ่อกับคุณแม่เลย เราจะมีเวลาทำงาน มีเวลาให้เพื่อน มีเวลาให้ครอบครัวเสมอ

ตอนนี้แมงมุมทำงานค่อนข้างเยอะ กำลังจะเปิดอีก 2 บริษัทด้วย แต่ถึงทำงานเยอะก็ยังมีเวลาให้ครอบครัวเสมอ สามีก็ไม่ว่าอะไรที่เราทำงานเยอะ เขารู้ว่าเราชอบทำงาน ส่วนกับครอบครัวเราเองถึงแม้แมงมุมจะแต่งงานแล้ว กับที่บ้านเราก็ไม่เคยห่าง คุยกันทั้งวัน ตอนนี้คุณแม่ก็มาช่วยแมงมุมทำละคร เหมือนเป็นที่ปรึกษา ท่านพ่อก็มีดูบ้าง แต่เขาจะไม่ยุ่ง มีแซวๆ ส่วนน้องชายเขาก็ยุ่งๆ กับงานของเขา แต่เราก็จะโทร.หากัน ปรึกษากัน เราจะไม่ก้าวก่ายกันเรื่องงาน แต่ทุกครั้งที่เขามีปัญหาเราในฐานะพี่สาวก็พร้อมที่จะให้คำปรึกษาและมีเวลาให้เขาเสมอ

ถามว่าสนิทกับน้องชายมั้ย เราอยู่เมืองนอกมาด้วยกัน เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน เรียนคณะเดียวกัน มีห่างกันตอนเรียนมัธยม อยุ่ประเทศเดียวกันแต่คนละเมือง ต่างคนต่างอยู่โรงเรียนประจำ จะเจอกันตอนปิดเทอม เราก็คุยกัน ปรึกษากัน แต่เค้าจะเป็นแบบผู้ชาย ไม่ค่อยหวาน เหมือนเราปิดกล้องเขาจะส่งข้อมความมาดีใจด้วย ต่างคนต่างไม่มีมุมหวาน เขามีหนังเราก็ช่วยโปรโมต ดูเหมือนเป็นอะไรเล็กๆ น้อยๆ แต่จะรู้กันว่าเราห่วงกัน เรารักกัน พ่อแม่เราก็เจอกันตลอดไม่เคยห่างกัน”

ครูคนแรกของเด็กหญิงแมงมุม

“ท่านพ่อถือเป็นครูคนแรกของแมงมุมในเรื่องการทำงานในวงการ ได้ดูหนังท่านมาตั้งแต่เด็ก เห็นตั้งแต่เขานั่งเขีนบท ทำวิจัย คัดตัวนักแสดง ตั้งทีมทำงาน หาฉากถ่ายทำ ทุกอย่างเราซึมซับมาจากท่านทุกอย่าง แมงมุมเรียนภาพยนตร์ ซึ่งตอนที่ตัดสินใจไปเรียนยังไม่ทราบว่าเราชอบอะไร แต่ตอนนั้นไม่รู้จะเรียนอะไร คิดว่าลองเรียนดู ถ้าชอบก็ดี ถ้าไม่ชอบก็ไม่เป็นไร ถือว่าเราได้ความรู้ ยังไงก็ต้องกลับมาบริหารงานที่บ้านอยุ่ดี ด้วยความที่เรายังเด็ก แต่พอได้เรียนวิชาแรก ได้มีผลงานชิ้นแรก ถึงได้รู้ว่าเราชอบจริงๆ

ท่านพ่อไม่อยากให้ทำหนัง เพราะมันเหนื่อยมาก ต้องรักมันจริงๆ ต้องอยู่กับมัน มันไม่ใช่อาชีพฉาบฉวย แต่วันหนึ่งเราเดินไปบอกว่าเราพร้อมที่จะทำตรงนี้ ท่านพ่อก็สนับสนุน แต่บอกให้ดูแลตัวเองให้ดี แมงมุมไม่ค่อยสบายให้ดูแลตัวเองก่อน ซึ่งจะว่าไปพวกเราพี่น้อง 6 คน ก็มาทำงานเบื้องหลัง 4 คน ครอบครัวไม่ได้บังคับ มันน่าจะอยู่ในสายเลือดจริงๆ  เหมือนกับที่เสด็จทวดเสด็จปู่ทำหนัง เรารักโดยอัตโนมัติ โดยที่ไม่ต้องพยายาม เหมือนถูกหลอมโดยไม่รู้ตัว”

ผลงานของบริษัทศรีคำรุ้ง โปรดักชั่นจำกัด

“ผู้ชนะสิบทิศ ถือว่าเป็นการทำละครแบบเต็มตัวของแมงมุมเรื่องแรก กระแสตอบรับดีมากเป็นละครที่ยาวมาก 40 กว่าตอน เงินลงทุนค่อนข้างสูง ตัวละครเยอะ เป็นเรื่องที่คนรู้จักอยู่แล้ว ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีมาก ครอบครัวไม่ว่าอะไร ถ้าเราไม่เหนื่อยจนเกินไปก็ทำต่อไป นอกจากนี้ก็มีเรื่องแหวนทองเหลือง และที่เพิ่งบวงสรวงไปก็คือ ซีรีย์ 3 เรื่อง คือ ปริศนา, เจ้าสาวของอานนท์ และ รัตนาวดี ซึ่ง 3 เรื่องนี้จะเป็นการถ่ายทำแบบภาพยนตร์ ทุกอย่างละเอียดมาก ส่วนเรื่องการเปรียบเทียบเพราะว่าเคยมีการผลิตเป็นละครมาแล้วหลายครั้งแมงมุมไม่ได้รู้สึกอะไร ไม่ได้ทำแข่งกับใคร แต่เป็นการตีความและเล่าเรื่องสไตล์ของแมงมุม”

ครอบครัวผู้อยุ่เบื้องหลังความสำเร็จ

“ที่มีวันนี้ได้ต้องบอกเลยว่ามาจากครอบครัว ทุกคนไม่ว่าจะเป็นท่านพ่อ คุณแม่ สามี หรือพี่ๆ น้องๆ ของเราจะเป็นคนสนับสนุนเราอยุ่เสมอ โดยเฉพาะในเรื่องของกำลังใจ ความห่วงใจ เรามีให้กันตลอด ท่านพ่อกับอดัมยังเล่นเกมด้วยกัน กิจกรรมของบ้านเราคือการดูหนัง ท่านพ่อจะโทร.มาชวนไปดูหนังด้วยกันตลอด อดัมก็ไป มีเรื่องคุยกันและจะมีปฎิสัมพันธ์กันตลอด”.

กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 14 เมษายน 2558

Section : จุดประกาย-บันเทิง

หน้า 5

ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล รัตตกุล ขึ้นแท่นเป็นผู้จัดละครและกำกับ จัดเต็มกับการเปิดตัวซีรีส์ 3 เรื่อง 3 รส ได้แก่ ปริศนา, เจ้าสาวของอานนท์ และรัตนาวดี นำทีมนักแสดงมากฝีมือและดาราหน้าใหม่เตรียมลงจอปลายเดือนพฤษภาคมนี้

หลังจากผ่านงานกับช่อง 8 ในละครพีเรียดอย่าง ผู้ชนะสิบทิศ ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล รัตนกุล หรือคุณหญิงแมงมุม เดินหน้าต่อกับละครย้อนยุคแนวโรแมนติกดรามา ที่ดัดแปลงจากนิยายชื่อดังโดย ว.ณ ประมวลมารค เป็นละครซีรีส์สามเรื่องรวดในนิยายชุดนี้ที่เล่าถึงชีวิตของสาวไทยในยุคที่สังคมกำลังปรับเข้าสู่ความทันสมัยและมีบทบาทนอกบ้าน

สำหรับบทบาทในฐานะผู้กำกับ “ปริศนา” และร่วมกำกับ “รัตนาวดี” นั้น คุณหญิงแมงมุมเผยเบื้องหลังว่า

“ก็ได้เรียนรู้งานจากการเป็นผู้จัดละครมาสองเรื่องแล้ว ก็มีกระแสตอบรับดีมาก และคิดว่าถึงเวลาแล้ว ที่จะเป็นผู้กำกับ เพราะเราก็จบด้านภาพยนตร์และโทรทัศน์มา พอได้อ่านเรื่องปริศนา ประทับใจในบทประพันธ์ เป็นเรื่องที่คลาสสิก ส่วนการเป็นละครรีเมค ไม่ได้รู้สึกกดดันอะไร เพราะผู้กำกับแต่ละคน ต่างมีมุมมองที่ไม่เหมือนกัน”

ส่วนการตีความ ปริศนา ในเวอร์ชั่นล่าสุดนี้ ผู้จัดและผู้กำกับบอกว่า

“การรีเมคละคร ไม่ใช่ว่าจะต้องทำให้ดีกว่า (ของเก่า) แต่จะเป็นเรื่องของความตั้งใจ การตีความอาจจะแตกต่าง การนำเสนอในแง่ที่ต่างกัน ส่วนเอกลักษณ์ของซีรีส์นี้ น่าจะเป็นเรื่องของโปรดักชั่นยิ่งใหญ่ เอาใจใส่ในทุกดีเทล มีความละเอียดอ่อน รวมกับความคลาสสิกของบทประพันธ์”

ปริศนาจะเป็นซีรีส์แรก ตามเรื่องราวต้นฉบับวรรณกรรม ในภาคของนักแสดง ปริศนา นำแสดงโดย ศรราม เทพพิทักษ์ ในบท ท่านชายพจน์ ประกบคู่กับ นางเอกน้องใหม่ เฟ-สุษมา กิติยากร ณ อยุธยา รับบทเป็น ปริศนา

“ผมดีใจที่ได้รับความไว้วางใจรับบทท่านชายพจน์ ไม่ว่าจะเป็นคุณแมงมุม ท่านมุ้ย (มจชาตรีเฉลิม ยุคล) พอได้มารับบทนี้จึงคิดว่าไม่อยากจะทำให้แฟนๆ ละครผิดหวัง จะพยายามทำให้ดีที่สุด ให้เหมือนกับแฟนๆ ที่เคยได้อ่านหนังสือมา หรือเคยดูละครเรื่องนี้มาก่อน”

ส่วนนางเอกใหม่ ที่ได้บทเด่น ปริศนา ซึ่งเคยสร้างชื่อให้กับนักแสดงหญิงมาหลายรุ่น เผยถึงงานนี้ว่า “รู้สึกตื่นเต้นและโชคดีมากที่ได้รับบทนี้ เพราะตอนที่ไปแคสก็ไม่คิดว่าจะได้รับ ที่ไปเพราะชอบบทประพันธ์นี้ ชอบตัวละคร อ่านมาหลายรอบมาก ตั้งแต่อ่านเรารู้สึกว่าเรามีอะไรที่เข้าใจละครตัวนี้ มีความคล้ายๆกัน เช่น ความเฟรนด์ลี่ มองโลกในเง่บวก ชอบทำกิจกรรม พอได้ก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก เต็มที่ ทุ่มเทมากๆ ค่ะ แต่อาจจะรู้สึกกดดันนิดๆ เพราะเป็นละครรีเมคที่ทุกคนชอบ มีความยากตรงที่เป็นละครเรื่องแรกของเฟ เพราะเป็นคนพูดค่อนข้างเร็ว และเป็นละครพีเรียด ต้องระวังเรื่องการติดพูดภาษาวัยรุ่นพูดให้ชัดขึ้นค่ะ เฟก็รู้สึกเต็มที่มาก”

เรื่องที่สองของซีรีส์ คือ “เจ้าสาวของอานนท์” นำแสดงโดย โทนี่ รากแก่น รับบท อานนท์ หนุ่มหล่อแสนกรุ้มกริ่ม ซึ่งถือเป็นงานแสดงละครพีเรียดเรื่องแรกของหนุ่มตี๋หล่อคนนี้ โทนี่เผยว่า “เป็นละครพีเรียดเรื่องแรกที่ได้มีโอกาสเล่น และเป็นซีรีส์ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ผมมีไปโผล่ในปริศนาด้วย เพราะอานนท์เป็นคนเจ้าชู้ ก็ไปจีบปริศนาด้วยครับ แต่สำหรับเรื่องเจ้าสาวของอานนท์เราไม่เคยดูเลยนะ พอได้อ่านบทแล้วรู้สึกสนุกมากเลย ในเรื่องจะเป็นเด็กนักเรียนนอก เพิ่งกลับมาที่ไทยและมีเรื่องเกียวกับความรักเข้ามายุ่งตลอดเวลา เป็นแนวน่ารักกุ๊กกิ๊กนะครับ ผมชอบตัวละครของอานนท์ มันยากนะครับทั้งภาษาด้วย และวิธีการใช้ชีวิตของคนโบราณจะเป็นอีกแบบหนึ่ง ซึ่งเราก็ต้องมาทำความเข้าใจด้วย ส่วนน้องเอสเธอร์ ได้ร่วมงานกัน น้องน่ารักครับ เป็นคนอยู่ง่าย กินจุ ว่างก็นอน ตื่นขึ้นมาก็กินอีกครับ (แอบเผา) แต่ก่อนหน้านี้ ผมติดตามผลงานน้องมาก่อนนะครับ น้องเป็นคนเก่ง พอได้มาเล่นด้วยกันแล้วรู้สึกสนุก ผมอยากจะบอกว่า เจ้าสาวของอานนท์สนุกสุดครับ ฮ่าๆ (ล้อเล่นๆ) ส่วนเลิฟซีนต้องไปดูเองในเรื่อง ด้วยความที่ว่าละครเรากำลังเล่าเรื่องของสมัยก่อน กว่าจะรักกันได้นานมาก ผู้หญิงก็จะหวงเนื้อหวงตัว ความน่ารักจะอยู่ตรงนี้แหละ มันอาจจะไม่ได้หวือหวา ถึงเนื้อถึงตัวตลอดเวลานะครับ”

ขณะที่บท สุชาดา เจ้าสาวของอานนท์นั้นรับบทโดย เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา สาวสวยแก่นแก้วแนวทอมบอย ซึ่ง เอสเธอร์บอกว่า เธอดีใจและเป็นเกียรติมากที่ได้เล่นเรื่องนี้ เพราะเธอเป็นแฟนละครปริศนามาตั้งแต่ยังเด็ก

ปิดท้ายซีรีส์ไตรภาค ด้วยเรื่อง “รัตนาวดี” จับคู่ กรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา ในบท มจ.ดนัยวัฒนา ทูตไทยประจำอังกฤษ ที่พบรักกับสาวมั่นร่าเริงอย่าง มจ.หญิงรัตนาวดี รับบทโดย จีน่า-ญีนา ซาลาส

โดย รัตนาวดี มีจุดขายกับ สถานที่เกิดเหตุอยู่ในยุโรป และทางกองถ่ายได้ยกกองไปถ่ายทำ ที่ อังกฤษ ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งนอกจากความสวยของทิวทัศน์แล้ว พระเอกรัตนาวดียังเผยว่า จะเป็นเนื้อหาที่แทรกเกร็ดประวัติศาสตร์ ตามรอยรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสยุโรปด้วย

สำหรับบทบาทนี้พระเอกใหม่อย่างกรรณต้องฝึกหนักในด้านภาษา “ก่อนไปถ่ายทำที่ต่างประเทศผมก็ต้องฝึกภาษา อ่านบทหลายรอบมาก ต้องอ่านออกเสียงแล้วฝึกพูด ฝึกออกเสียงทุกๆ วัน เช่น บางคำเป็นภาษาไทย แต่เราต้องพูดเป็นราชาศัพท์ และต้องมาพูดเป็นภาษาอังกฤษอีก แถมบางคำต้องพูดภาษาฝรั่งเศสด้วยครับ” กรรณ กล่าว

เหตุผลในการสร้างละครซีรีส์ชุดนี้รวดเดียว 3 เรื่อง นั้น ผู้จัดบอกว่า เพื่อให้ “อารมณ์คนดูไม่สะดุด” เพราะตัวละครเชื่อมโยงกันทั้งสมเรื่อง และนักแสดงนำแต่ละเรื่องจะไปโผล่ในตอนต่างๆ ตามเรื่องราวของบทประพันธ์เลยทีเดียว

“การที่เราเลือกทำเป็นซีรีส์ สามเรื่องพร้อมกัน ทำให้ตัวละครจากเรื่องหนึ่งเข้ามามีบทในอีกเรื่องหนึ่ง ตัวละครมีความเชื่องโยงกันทำให้อารมณ์คนดูไม่สะดุด มีการสานสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องกับผู้ชม เหมือนเป็นการสร้างความผูกพัน แล้วค่อยโตไปพร้อมๆ กัน”

จีนา-ญีนา ซาลาส ผู้รับบท มจ.หญิงรัตนาวดีเสริมว่า “จีน่าจะได้แสดงในเรื่องปริศนาด้วยค่ะ ในบทหม่อมเจ้าหญิงรัตนาวดี เริ่มตั้งแต่เรื่องปริศนาจะเป็นเด็กซนๆ หัวดื้อนิดหน่อย แต่พอโตขึ้นมาก็จะเรียบร้อยขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในลุคซนๆ ซึ่งในตัวละครรัตนาวดีก็มีส่วนคล้ายกับตัวจริง จีน่าตรงเรื่องซนๆนะคะ”

ตามคำบอกเล่าของจีนา ทีมงานได้เริ่มถ่ายทำปริศนาไปแล้ว และจะเริ่มถ่ายทำรัตนาวดีตามลำดับ และกำหนดวันเริ่มแพร่ภาพ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 21.30 น.-23.00 น. ทางช่อง PPTV HD เริ่มตอนแรกช่วงปลายเดือนพฤษภาคมศกนี้

Thai Rath   วันที่ 12 เมษายน 2558

Section :  Entertainment

หน้า 27

   ถูกพุ่งเป้าจับตาตั้งแต่เฉลยว่าผู้รับบท "ปริศนา" สาวนักเรียนนอกผู้ร่าเริงที่ถูกปัดฝุ่นรีเมกเวอร์ชั่น 2558 คือ นางเอกใหม่แกะกล่อง สาวน้อยวัย 19 ปี ดีกรี นักศึกษามหาวิทยลัยออกซ์ฟอร์ด ประทศอังกฤษ "เฟ-สุษมา กิติยากร ณ อยุธยา" ลูกสาวคนสวยของไฮโซสาว ต่าย-นิทรา กิติยากร ณ อยุธยา ผ่านการคัดเลือกจากโครงการ "ตามหาปริศนา" พร้อมลงจอช่องพีพีทีวี โดยผู้จัดไฟแรง คุณแมงมุม-ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล รัตตกุล ประกบพระเอกรุ่นใหญ่ "หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์" แต่ยังไม่ทันไรก็โดนวิจารณ์เปรียบเทียบบ้าง เป็นเด็กเส้นบ้าง เจอแบบนี้ท้อเลยมั้ย? "เฟเป็นคนไม่ค่อยอ่านกระทู้อะไรเพราะตอนนั้นสมองเต็มมากต้องมีสมาธิต้องบินไปบินมา ตอนที่อยู่อังกฤษก็โฟกัสแต่เรื่องเรียน มาที่นี่ก็ต้องจำบทให้ได้ ไม่ได้คิดเรื่องอื่นเลย" เตรียมรับมือเสียงวิจารณ์รึยัง? "เราคงทำอะไรไม่ได้ ไม่อยากให้เอาไปเปรียบเทียบ อยากให้คนดูเปิดใจให้โอกาสและเห็นความตั้งใจของเรา เราชอบเล่นโยคะ นั่งสมาธิ เลยอยุ่กับปัจจุบัน ทำใจว่า ถ้ามีคนชอบและไม่ชอบ ถ้ามีคนคอมเม้นต์การแสดงถือว่าเราเอาไว้ปรับปรุง"

   บทนี้ยากที่สุดตรงไหน "คงเป็นเรื่องภาษาพีเรียด คำราชาศัพท์ ต้องร้องไห้ตลอดหลายอารมณ์ ทั้งอกหัก น้อยใจ ยากตรงเรายังไม่เคยมีความรัก จะนึกไม่ออก พี่หนุ่ม-ศรราม ใจดีมาก อย่างฉากทะเลาะงอนกัน เราทำไม่ได้พี่หนุ่มก็จะสอนว่าให้นึกถึงเวลาน้อยใจคนที่เราแอบชอบ คอยแนะนำให้กำลังใจ เป็นแอ๊กติ้งโค้ชด้วย ช่วยได้เยอะมาก"

   ตัว "เฟ" กับ "ปริศนา" เหมือนกันยังไง "ก็ใกล้กับเรามาก คงเป็นความร่าเริง ชอบทำกิจกรรม รักครอบครัว มีความรับผิดชอบ เฟชอบบทประพันธ์นี้มาก เพราะปริศนามีอะไรคล้ายเราหลายอย่าง เช่น เด็กที่ไปเรียนเมืองนอก เราเข้าใจมุมของเค้าเลยอยากมาแคส แต่คุณพ่อคุณแม่หวงมาก ต้องทำเป็นเพาเวอร์พอยต์ให้ท่านเห็นว่าเราจะได้อะไรจากการเล่นบ้าง (ยิ้ม) เพราะท่านกลัวเราจะหลงไป สุดท้ายก็อนุญาต เพราะฉะนั้นที่คนมองว่า เราเป็นเด็กเส้นรึเปล่า ไม่จริงเลยเพระาคุณพ่อคุณแม่ไม่อยากให้ทำตรงนี้ด้วยซ้ำ"

   เหมือนชีวิตเราต้องมีภาระ 2 อย่างพร้อมกัน? "ใช่ค่ะ อย่างตอนเรียนที่นั่นมีแต่คนเรียนเก่ง ทุกคนดูฉลาด เราก็ต้องตั้งใจ พอได้มาเล่นต้องปิดบังเพื่อนๆเพราะขอทางมหาวิทยลัยพักการเรียน 1 ปี เค้าก็ไม่อนุญาต เลยต้องสวิตช์ตัวเองตลอด ยอมรับว่าเคยมีวันร้องไห้ท้อคุยกับคุณแม่ตลอด แต่ไม่เคยไม่ไหวเพราะเราเป็นคนเลือกเอง ผู้ใหญ่วางใจเราแล้วทุกคนก็เต็มที่ เราก็อยากทำให้ดีที่สุด" 

   ถึงตอนนี้เริ่มติดใจวงการรึยัง? "พอเราได้มาทำงานก็เร่ิมหลงรักการแสดง ได้เปิดโลกใหม่ๆ สนุกดีค่ะ แต่คงต้องกลับไปเรียน ถ้าเรียนจบหรือช่วงปิดเทอมมีงานน่าสนใจก็พร้อมค่ะ"

ดูเรามีมุมมองความคิดดี เรียกว่าเป็น"สาวโลกสวย ได้มั้ย? "ได้ค่ะ เราหาความสุขกับทุกอย่างที่เราทำ แทนที่จะมองว่าเรายังไม่มีอะไรแต่มองที่เรามี ไม่เปรียบเทียบกับคนอื่น ไม่ว่าจะทำอะไรเราก็มีความสุขค่ะ"

แนวหน้า   วันที่ 11 เมษายน 2558

Section :  Society

หน้า 4

บวงสรวงละครพีเรียด

เขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้งจำกัด (BMB) ผู้ประกอบการสถานีโทรทัศน์ดิจิตอล พีพีทีวี เอชดี ร่วมงานบวงสรวงละครซีรี่ส์พีเรียด 3 เรื่อง ได้แก่ ปริศนา, เจ้าสาวของอานนท์ และรัตนาวดี โดยผู้จัดละครและผู้กำกับ ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล รัตตกุล และ คุณากร เศรษฐี พร้อมนักแสดงนำมาร่วมพิธีบวงสรวง ณ สตูดิโอสถานีโทรทัศน์ดิจิตอล พีพีทีวี เอชดี

สยามดารา วันที่ 10 เมษายน 2558

Section/Page : P.3

พีพีทีวี เอชดี

   เตรียมส่งละครเรื่องใหม่จ่อคิวอย่างต่อเนื่อง กับละครพีเรียดฟอร์มยักษ์สุดคลาสสิกที่ตรึงใจผู้ชมทุกสมัย โดย

ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล รัตตกุล ขึ้นแท่นเป็นผู้จัดละครและกำกับ โดยได้แบ่งเป็นซีรีส์ 3 เรื่อง 3รส ได้แก่ ปริศนา, เจ้าสาวอานนท์ และ รัตนาวดี นำทีมนักแสดงมากฝีมือและดาราหน้าใหม่ที่น่าจับตามารวมตัวกัน พร้อมร่วมทำพิธีบวงสรวง ณ สตูดิโอสถานีโทรทัศน์ดิจิตอลพีพีทีวี เอชดี โดยปริศนาจ่อคิวลงจอก่อน ปลายเดือนพฤษภาคมนี้ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 21.30 – 23.00 น.

ทางช่อง PPTV HD ทางช่อง PPTV HD ดิจิตอลทีวี ช่อง 36 หรือเคเบิล และทีวีดาวเทียมช่อง 6 และ 46

                  ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล รัตตกุล ผู้กำกับละครปริศนา และผู้กำกับละครรัตนาวดี เผยว่า "หลังจากได้เรียนรู้เรื่องงานละคร

บ้านเรา ด้วยการเป็นผู้จัดละคร 2 เรื่อง มีกระแสตอบรับดีมาก และคิดว่าถึงเวลาแล้ว ที่จะเป็นผู้กำกับฯ เพราะเราก็จบด้านภาพยนตร์และโทรทัศน์ พอได้อ่านเรื่องปริศนาประทับใจในบทประพันธ์ เป็นเรื่องที่คลาสสิก ส่วนการเป็นละครรีแมก ไม่ได้รู้สึกกดดันอะไร เพราะผู้กำกับฯ แต่ละคน ต่างมีมุมมองที่ไม่เหมือนกัน การตีความเรื่อง "ปริศนา" ของเราเป็นแบบนี้ เราจะจินตนาการแบบนี้ การรีเมกละคร ไม่ใช่ว่าต้องทำให้ดีกว่า แต่จะเป็นเรื่องของความตั้งใจ การตีความที่อาจจะแตกต่าง การนำเสนอในแง่ที่ต่างกัน ส่วนเอกลักษณ์ของซีรีส์นี้ น่าจะเป็นเรื่องของโปรดักชั่นยิ่งใหญ่ เอาใจใส่ในทุกดีเทล มีความละเอียดอ่อน รวมกับความคลาสสิกของบทประพันธ์ การที่เราเลือกทำเป็นซีรีส์ สามเรื่องพร้อมกัน ทำให้ตัวละครจากเรื่องหนึ่งเข้ามามีบทในอีกเรื่องหนึ่ง ตัวละครมีความเชื่อมโยงกัน ทำให้อารมณ์คนดูไม่สะดุด มีการสานสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องกับผู้ชม เหมือนเป็นการสร้างความผูกพันธ์แล้วค่อยโตไปพร้อมๆกัน"

                  เริ่มกันที่ละครสุดคลาสสิกที่ทุกคนต่างรอคอยกับ "ปริศนา" ได้นักแสดงคุณภาพ อย่าง ศรราม เทพพิทักษ์ ซึ่งห่างหายจากหน้าจอไปกว่า 3 ปี รับบทเป็น ท่านชายพจน์ พระเอกผู้อบอุ่น เผยว่า "ผมดีใจที่ได้รับความไว้วางใจรับบทท่านชายพจน์ ไม่ว่าจะเป็นคุณแมงมุม ท่านมุ้ย ก็เป็นที่เคารพนับถือของครอบครัวผม พอได้มารับบทนี้จึงคิดว่าไม่อยากจะทำให้แฟนๆ ละครผิดหวัง จะพยายามทำให้ดีที่สุด ให้เหมือนกับแฟนๆ ที่เคยอ่านหนังสือมา หรือเคยดูละครเรื่องนี้มาก่อน ส่วนน้องเฟย์ มีความพยายามมาก เป็นเรื่องใหม่ของน้อง และยังต้องถ่ายทำควบคู่กับการเรียนที่อังกฤษ มีความอดทนสูง ต้องขอชื่นชมครับ"

                  ส่วนเรื่อง "เจ้าสาวของอานนท์" ได้พระเอกหนุ่ม โทนี่ รากแก่น มารับบท อานนท์หนุ่มหล่อแสงกรุ้มกริ่ม เผยว่า "เป็นละครพีเรียดเรื่องแรกที่ได้มีโอกาสเล่น และเป็นซีรีส์ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ผมมีไปโผล่ในปริศนาด้วย เพราะอานนท์เป็นคนเจ้าชู้ก็ไปจีบปริศนาด้วยครับ แต่สำหรับเรื่องเจ้าสาวของอานนท์เราไม่เคยดูเลยนะ พอได้อ่านบทแล้วรู้สึกสนุกมากเลย ในเรื่องจะเป็นเด็กนักเรียนนอก เพิ่งกลับมาที่ไทยและมีเรื่องเกี่ยวกับความรักเข้ามายุ่งตลอดเวลาเป็นแนวน่ารักกุ๊กกิ๊กนะครับ ผมชอบตัวละครของอานนท์ มันยากนะครับ ทั้งภาษาด้วยและวิธีการใช้ชีวิตของคนโบราณจะเป็นอีกแบบหนึ่ง ซึ่งเราก็ต้องมาทำความเข้าใจด้วย ส่วนน้องเอสเธอร์ ได้ร่วมงานกัน น้องน่ารักครับ เป็นคนอยู่ง่าย กินจุ ว่างก็นอน ตื่นขึ้นมาก็กินอีกครับ (แอบเผา) แต่ก่อนหน้านี้ผมติดตามผลงานของน้องมาก่อนนะครับ น้องเป็นคนเก่ง พอได้มาเล่นด้วยกันแล้วรู้สึกสนุก ผมอยากจะบอกว่าเจ้าสาวของอานนท์สนุกสุดครับ ฮ่าๆ (ล้อเล่นๆ) แต่โปรดักชั่นของเรื่องนี้ทำเหมือนภาพยนตร์ สถานที่ฉากต่างๆ ที่ไปถ่ายตั้งใจหา ตั้งใจทำมากๆ ถ่ายออกมาแล้วสวยมาก มันจะแตกต่างจากละคร เป็นรูปแบบการทำละครที่น่าติดตามครับ ส่วนเลิฟซีนต้องไปดูเองเรื่องนี้ ด้วยความที่ว่าละครเรากำลังเล่่าเรื่องของสมัยก่อน กว่าจะรักกันได้นานมาก ผู้หญิงก็จะหวงเนื้อหวงตัว ความน่ารักก็จะอยู่ตรงนี้แหละ มันอาจจะไม่ได้หวือหวา ถึงเนื้อถึงตัวตลอดเวลานะครับ"

                  นางเอกหน้าใส  "เอสเธอร์-สุปรีย์ลีลา" มารับบทเป็น สุชาดา สาวแก่นเจ้าของหัวใจอานนท์ที่เคมีแสนจะเข้ากัน เผยว่า "เป็นการร่วมงานครั้งแรกกับพี่โทนี่ เคยได้ติดตามผลงานมาก่อนนานมากแล้วนะคะ (เน้นมากๆ) จนได้มาร่วมงานกัน ตอนแรกดูนิ่งๆ เพราะว่าเราก็ค่อนข้างอายุห่างกันมากเยอะเลยค่ะ ก็ไม่รู้ว่าจะคุยกันได้มากน้อยแค่ไหน แต่พอผ่านไปก็รู้สึกว่าพี่เขาก็คุยได้นะ เฟรนด์ลี่ ร่าเริงปกติ และรู้สึกดีใจและเป็นเกียรติมากที่ได้เล่นละครเรื่องนี้ เพราะเราเคยเป็นแฟนของละครปริศนามาก่อน ตอนเด็กๆ แล้วได้มาเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ปริศนา ส่วนในการแสดงเป็นนางเอกเรื่องเจ้าสาวอานนท์ ในเรื่องจะชื่อสุชาดาค่ะ

แคแรกเตอร์จะค่อนข้างห้าวๆแมนๆ หน่อย จนตอนแรกพระเอกคิดว่าเราเป็นผู้ชาย เป็นทอม ก็สนุกดี ถ่ายกันที่สวนมะพร้าวบ่อยก็ร้อนมากค่ะ เคยเล่นซีรีส์มาก่อนเหมือนกันนะคะแต่เรื่องนี้ค่อนข้างจะแตกต่างจากที่เคยแสดงมาในเรื่องคาแรกเตอร์และเนื้อเรื่องก็ต่างกัน หนูชอบบทละครเรื่องนี้มันค่อนข้างเป็นอมตะ อยากให้ได้ชมกันค่ะ คิดว่าเป็นอีกเรื่องที่จะอยู่ในใจใครหลายๆคน"