Nylon วันที่ 17 มิถุนายน 2558
Section : News
หน้า 106-109
ในนวนิยายของ ว. ณ ประมวญมารค ปริศนา สุทธากุล เป็นหญิงสาวอายุ 19 ปี ที่เดินทางจากอเมริกากลับมาถึงเมืองไทยในปี 2481 ความสวย ความเร่าเริง ความมั่นใจ และความสามารถรอบตัว ทำให้ชื่อของปริศนาเธอเป็นที่กล่าวขวัญถึงในวงสังคมภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว เช่นเดียวกับที่ชื่อของ เฟ-สุษมา กิติยากร ณ อยุธยา นักศึกษาปีที่ 2 จากมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด วัยเดียวกับปริศนา กลายเป็นที่พูดถึงและจับตามองทันทีที่ค่ายศรีคำรุ้งเปิดตัวเฟในฐานะนักแสดงหน้าใหม่ที่จะมารับบทนางเอกของละครเรื่อง ปริศนา เวอชั่นล่าสุด ที่จะออกฉายทางช่อง PPTV เดือนนี้
ปริศนา เป็นละครเรื่องแรกของเฟแต่จริงๆก่อนหน้านี้เฟเคยทำงานเป็นดีเจ คลื่น Pynk 98 FM ตอนนั้นต้องแคสต์ก่อนเหมือนกัน ซึ่งก็ไม่คิดว่าตัวเองจะได้ เพราะเฟเด็กสุด อายุ 14 คิดว่าเหตุผลหนึ่งที่เขาเลือกเฟน่าจะเป็นเพราะเราครีเอตสโลแกนที่จะใช้แนะนำตัวเองขึ้นมาเอง เขาคงชอบตรงนี้ก็เลยให้จัดรายการคู่กับพี่ติ๊นาที่เล่นเรื่อง Yes or No อยากรัก ก็รักเลย จัด 2 ทุ่มถึง 4 ทุ่มทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เปิดเพลงฮิตของวัยรุ่น ทำไปเรียนหนักไปด้วยอยู่ปีหนึ่ง พอพักข่าวหรือพักโฆษณาก็จะทำการบ้าน ช่วงที่ทำรู้สึกสนุกดี ได้รู้จักคนเยอะขึ้น แต่ก็ไม่ได้คิดไปถึงงานอื่นในวงการ
เคยคิดไว้ว่าอยากทำงานอะไรบ้าง
เฟชอบหลายอย่าง แล้วก็ชอบทำกิจกรรมมาก ซึ่งตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่คล้ายๆกับปริศนา แล้วเฟเป็นคนที่มี 2 ด้าน หรือมากกว่า 2 ด้านด้วยซ้ำ ด้านหนึ่งจะเป็นเหมือนเนิร์ด อาจจะไม่ได้เรียกว่าเนิร์ดเสียทีเดียว แต่เรียกว่าเป็นคนที่ทำทุกอย่าง 100 เปอร์เซนต์ตลอด อย่างการเรียนก็ทุ่มเทมาก แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนชอบแฟชั่น ชอบแต่งตัวมาก ตอนเด็กๆเคยอยากเป็น บก. นิตยสารแฟชั่นด้วย
ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะงานของคุณแม่ (นิทรา กิติยากร ณ อยุธยา บก.นิตยสาร Women's Health) ด้วยหรือเปล่า
คิดว่าน่าจะมีส่วน เพราะเฟโตมาในออฟฟิตคุณแม่ ตั้งแต่เด็กๆ จะเห็นคุณแม่ปิดเล่ม เวลาไปกองถ่ายแฟชั่นก็รู้สึกว่ามันน่าสนุกจัง ได้เปลี่ยนลุคไปตามเสื้อผ้า แล้วจริงๆ เฟก็ช่วยคุณแม่มาตลอด ด้วยความที่เฟเรียนโรงเรียนอินเตอร์ คุณแม่ก็จะไว้ใจให้เฟช่วยคิด Heading ภาษาอังกฤษ ช่วยแก้ภาษาอังกฤษให้ หรืออย่างตอนที่คุณแม่ไปทำคอลลัมน์สัมภาษณ์ท่านทูตคริสตี้ เคนนีย์ (อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย) เฟก็เป็นคนสัมภาษณ์และแปลบทสัมภาษณ์นั้น พอโตมาในบรรยากาศนี้เลยชอบและอยากทำบ้าง แต่นอกจากเรื่องนี้ เฟยังชอบเรื่องแอ็กติ้งด้วย สมัยเรียนที่เมืองไทยก็เล่นละครเพลงของโรงเรียนหลายเรื่อง อย่าง The Wizard of Oz หรือ Macbeth
ได้ยินว่าเคยมีคนติดต่อให้เข้าวงการบันเทิงอยู่เรื่อยๆและทางบ้านก็ปฏิเสธมาตลอด แต่ทำไมถึงตกลงรับเล่นเรื่องนี้
ที่บ้านจะเน้นเรื่องการศึกษามากกว่า อยากให้เรียหนังสือ แต่ละครเรื่องนี้เฟขอคุณพ่อคุณแม่ไปแคสต์เองเลยเพราะว่าชอบเรื่อง ปริศนา มาก อ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็กแล้วก็รู้สึกมาตั้งแต่ก่อนที่จะรู้ว่าจะมีการทำละครเรื่องนี้ใหม่แล้วว่า เราเก็ตคาแรกเตอร์ของปริศนานะ เฟชอบตัวละครนี้ คิดว่าเรามีอะไรที่คล้ายๆกันอยู่บ้าง พอเห็นว่ามีโครงการตามหาปริศนา ซึ่งตรงกับช่วงปิดเทอมของที่อ๊อกซ์ฟอร์ดพอดี ก็เลยขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่ไปแคส
ทำไมถึงชอบเรื่องการแสดง
เพราะมันสนุก แล้วเฟก็ชอบเรียนรู้อะไรใหม่ๆ การแสดงทำให้เรามีประสบการณ์ใหม่ตลอดเพราะเราได้คิดในแบบของคนอื่นเปลี่ยนไปตามคาแร็คเตอร์ของตัวละครในเรื่อง การแสดงยังทำให้ได้ทำกิจกรรมซึ่งถ้าเป็นตัวเราเองปกติอาจจะไม่ได้ทำ อย่างเล่นเรื่อง ปริศนา ก็ได้ไปงานเต้นรำโก้ๆ ที่จัดในวังท่านชาย หรือได้นั่งเรือเล่น ซึ่งถ้าไม่ได้เล่นเรื่องนี้คงไม่ได้ทำสิ่งเหล่านี้
ใช้เวลาขออนุญาตนานแค่ไหน กว่าคุณพ่อคุณแม่จะยอมให้เล่นเรื่องนี้
ที่ใช้เวลาคุยกันนานคือตอนที่คิดว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องเรียน เพราะตอนไปแคสต์ไม่คิดว่าจะได้ ก็เลยลืมคิดไปเลยว่าถ้าได้แล้วเราจะจัดการแบบไหน เพราะฉะนั้นที่คุยกันนานเลยไม่ใช่เรื่องที่ว่าจะอนุญาตให้เล่นหรือเปล่า แต่เป็นเรื่องว่าจะเอาอย่างไรดีมากกว่า
ตอนแรกเฟส่งเมล์ไปที่มหาวิทยาลัยจะขอเขาหยุดปีหนึ่งเพื่อถ่ายเรื่องนี้แล้วค่อยกลับไปเรียนต่อ แต่ทางมหาวิทยาลัยไม่ให้หยุด เขาโอเคกับเรื่องเราเล่นละครแต่เราต้องหาเวลาทำเอง ไม่ให้หยุดเรียน แล้วถ้าจะให้ออกจากอ๊อกซ์ฟอร์ดมาเพื่อเล่นละครคุณพ่อคุณแม่ไม่มีทางยอมแน่ๆ ตัวเฟเองก็ไม่อยากทำแบบนั้นเหมือนกัน เพราะกว่าจะเข้าที่นี่ได้มันเป็นเรื่องที่เราภูมิใจ คุณพ่อคุณแม่เลยมีการบ้านให้เฟไปคิดมาว่า ถ้าเรียนไปด้วยถ่ายไปด้วย เราจะทำอย่างไรได้บ้าง แล้วก็ต้องให้สัญญาไว้ด้วยว่า ถ้าเกิดเฟมาถ่ายละครแล้วหลงไปกับตรงนั้นจนไม่ให้ความสนใจเรื่องเรียนหรือการเรียนตกลง แม่จะดึงเรากลับมาทันที สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปกันว่าจะใช้วิธีบินไปบินมาทุกอาทิตย์ระหว่างที่ถ่ายละคร
ช่วยเล่าถึงตารางชีวิตช่วงนั้นให้เราฟังซักหน่อย
ช่วงแรกๆ ตารางจะค่อนข้างตายตัวเพราะเขาวางคิวให้เราถ่ายวันจันทร์ อังคาร พุธ เฟจะบินมาจากอังกฤษตั้งแต่วันเสาร์ถึงไทยวันอาทิตย์ ไม่ก็พฤหัสฯ เช้า แล้วแต่อาทิตย์ ตอนอยู่บนเครื่องบินก็ทำการบ้าน ท่องหนังสือ พอไปถึงที่นั่นก็นั่งรถบัสต่อไปอ๊อฟซ์ฟอร์ดแล้วเข้าเรียน เฟเรียนวิชาประวัติศาสตร์จะเน้นอ่านหนังสือ เขียนเรียงความ อาทิตย์หนึ่งต้องอ่านหนังสือเยอะมาก พอเรียนเสร็จจะเอาหนังสือของอาทิตย์ที่แล้วไปคืน เพื่อยืมล็อตใหม่มา วันเสาร์ก็เอาหนังสือที่ยืมใหม่ใส่กระเป๋า ขึ้นเครื่องมาเมืองไทย
หนังสือที่เอามาจากที่นั่นพอเอาเข้าจริงแล้วไม่ค่อยได้อ่านตอนที่อยู่เมืองไทยเท่าไหร่ ตอนแรกที่เริ่มถ่าย เฟพยายามจะอ่านช่วงที่ว่างจากการถ่ายละคร แต่กลายเป็นว่ามันทำให้เราไม่มีสมาธิกับตัวละคร เลยเปลี่ยนวิธีใหม่ อยู่บนเครื่องบินจากที่นั่นท่องบท พอมาถึงที่นี่ จันทร์ อังคาร พุธ อยู่กับบทปริศนา พอขากลับก็เอาหนังสือมาอ่าน คือแบกมาเพื่ออ่านบนเครื่องบินอย่างเดียวเลย
ก่อนเปิดกล้อง เรารู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องเหนื่อย แต่พอถึงเวลาจริงมันเหนื่อยกว่าที่คิด เพราะมีหลายๆอย่างที่เราลืมนึกถึงอย่างเรื่องเพื่อน เวลาเขาชวนไปโน่นไปนี่เราก็ไปไม่ได้ ยิ่งช่วงแรกๆที่ทีมงานยังไม่ให้บอกใครว่าเราเล่นเป็นปริศนาก็ต้องหาข้ออ้างบอกเขาไป แต่ในขณะเดียวกันการทำงานมันก็สนุกมากจนช่วยให้เราลืมความเหนื่อยไปได้
ช่วงที่ต้องบินไปบินมาตั้งแต่ตุลาคมปีที่แล้วจนถึงปิดกล้องเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมามีผลต่อการเรียนเราบ้างไหม
ดรอปลงนิดหน่อย แต่ไม่มาก เพราะเราพยายามทำให้ดี ถ้าจะเป็นก็อาจจะมีช่วงที่อดนอนนิดหน่อย จริงๆก็ไม่นิดหน่อยนะแต่เพราะเฟเป็นคนมีพลังงานเยอะก็เบยทำได้ เคยเจอครูเรียกไปคุยครั้งหนึ่ง เพราะครูที่นั่นเขาค่อนข้างเข้มงวด นักเรียนทุกนต้องออกมาดี เขาเห็นเราดรอปไปนิดเลยถามว่าเรายังโอเคไหม ต่อหน้าครูเฟก็บอกว่ารู้สึกว่าคอร์สนี้ยากกว่าปกตินิดหน่อย แต่ไม่มีอะไรนะ กำลังพยายามอยู่ พอกลับถึงห้องร้องไห้โทรหาคุณแม่เลย คือมันจะมีบางช่วงที่ปริศนาต้องเข้าฉากเยอะมากจนไม่มีเวลาอ่านหนังสือ การบ้านก็ทำออกมาไม่ค่อยดีพอเจอครูเรียกไปคุยก็เลยกลับมาร้องไห้เพราะรู้สึกว่าทำไมเราไม่เก่ง แต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้
นอกจากวางแผนเรื่องตารางชีวิตแล้วมีการเตรียมตัวเพื่อรับบทนี้อย่างไรบ้าง
ช่วง 2-3 เดือนระหว่างที่รู้ว่าได้บทนี้กับวันเปิดกล้อง เฟไปเรียนแอ็กติ้งเพิ่มเติม อ่านหนังสืออีกรอบให้เข้าใจยิ่งขึ้น แล้วก็หัดทำกิจกรรมต่างๆ ด้วย โชคดีที่เฟเคยเรียนขับรถ เทนนิส ขี่ม้า และชอบเต้นรำอยู่แล้วแต่ต้องไปเรียนเพิ่มเติมให้ดูเก่งขึ้น เพราะปริศนาเขาไม่ใช่แค่ทำได้อย่างเดียว แต่เขาทำได้คล่อง เก่ง และมั่นใจ อย่างเทนนิสก็ต้องเปลี่ยนเป็นไม้แบบโบราณ ขับรถก็ต้องหัดเกียร์กระปุก
เคยดู ปริศนา เวอร์ชั่นก่อนๆบ้างไหม
ตอนก่อนไปแคสเคยเปิดดูนิดหน่อยไม่ได้มีเวลาดูเยอะ แต่ก็ชอบทั้งเวอร์ชั่นพี่หมิวและพี่เทย่า พอได้บทปั๊บ ทีมงานบอกว่าไม่ให้ดูอีก เขากลัวเราจะไปจำแล้วก็ก๊อปเวอร์ชั่นเดิม แทนที่จะเล่นแบบที่เราเข้าใจหรือแบบที่ผู้กำกับบอกมา
คิดว่าอะไรในตัวที่ทำให้ได้รับบทนี้
ตอนไปแคสต์เฟคิดว่ามีคนที่สวยกว่าเราเยอะ หุ่นดีกว่าเราเยอะ แล้วก็มีประสบการณ์มากกว่าเรา เพราะเราไม่เคยเล่นละครมาก่อนก็เลยไม่คิดว่าจะได้ แต่เฟเป็นคนคิดบวก คือเราไม่ expect แต่ hope จะคิดว่าถ้าได้ดีก็ดี แต่ก็เผื่อไว้ใจแล้วว่าอาจจะไม่ได้ หลังจากที่ได้บทนี้แล้ว เฟได้ยินพี่แมงมุม (ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล) ซึ่งเป็นผู้กำกับและคนอื่นๆในกองพูดว่า บุคลิกกับนิสัยของเฟคล้ายปริศนา คือร่าเริง เฟรนด์ลี่แล้วก็ชอบทำกิจกรรมหลายอย่าง
อีกอย่างหนึ่ง เฟคิดว่าทั้งตัวเฟและปริศนาเป็นคนที่มี 2 ด้านคล้ายกัน คือเขาไม่ได้ร่าเริงอย่างเดียว คนส่วนใหญ่อาจจะจำด้านนี้ของปริศนาได้ แต่จริงๆ เขาเองก็มีอีกด้านที่เป็นคนมีความรับผิดชอบ เป็นผู้ใหญ่เกินอายุ เพราะโตมากับผู้ใหญ่อยู่ในครอบครัวที่ไม่ได้เลี้ยงเขาให้เป็นเด็ก เป็นคนที่มีทั้งมุมสนุกและมุมจริงจัง
ปริศนาเป็นคนมั่นใจ เฟเองก็เป็นคนมั่นใจเหมือนกัน ระหว่างสองคนนี้ใครเป็นสาวมั่นกว่ากัน
คิดว่าปริศนาน่าจะมั่นใจกว่าเฟนิดหนึ่ง เฟยังมีความเป็นไทยมากกว่าเขาหน่อยอย่างถ้าเจอผู้ใหญ่ เราก็จะไม่กล้าเถียง แต่ในเรื่องมีบางฉากที่เฟเองก็ยังรู้สึกว่าปริศนาเขากล้าเนอะ อย่างฉากตอนที่พึ่งกลับมาใหม่ๆแล้วไปทะเลาะกับคุณย่าเป็นฉากหนึ่งที่เรารู้สึกว่าเขาเป็นคนที่มั่นใจมาก
ความยากในการรับบทนี้มีอะไรบ้าง
จะมีปัญหานิดหน่อยเรื่องพูดให้ช้าเพราะเฟพูดเร็ว แล้วก็ต้องพูดโดยไม่ใช้ศัพท์วัยรุ่นเพราะเป็นละครพีเรียด คำราชาศัพท์ก็เป็นเรื่องยากเพราะเราไม่ค่อยได้ใช้ แล้วเฟต้องเข้าฉากกับท่านชายเยอะ
ฉากที่หลายเทคหน่อยส่วนใหญ่จะเป็นฉากที่เศร้าหรือต้องร้องไห้ เพราะปกติเฟไม่ใช่คนร้องไห้ง่าย ถ้าร้อง มักจะร้องในเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองมากกว่า ร้องเพราะสงสารคนอื่น ที่ยากอีกอย่างคือฉากอินเลิฟเพราะเฟไม่เคยมีความรักมาก่อน เวลาที่ต้องร้องไห้เพราะงอนท่านชายหรือเสียใจเพราะเรื่องความรักก็เลยยาก แต่พี่หนุ่มก็ช่วยอธิบายให้เฟเข้าใจขึ้นเยอะ
ท่านชายพจน์เวอร์ชั่นหนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์ เหมือนในหนังสือที่เราเคยอ่านมาก่อนไหม
เฟว่าเหมือนนะ โดยเฉพาะเวลาพี่หนุ่มใส่ชุดและทำผมแบบท่านชาย เขาจะเป็นตัวละครนั้นเลย ทั้งที่ตัวจริงเขาเฮฮาขี้เล่น เป็นกันเองมาก แต่พอเข้าฉากเป็นท่านชาย เขาก็จะกลายเป็นคนขรึมและดูดุนิดๆตามบทเลย
เสน่ห์ของปริศนาเวอร์ชั่น 2558 อยู่ตรงไหน
เฟคงเปรียบเทียบกับเวอร์ชั่นก่อนไม่ได้แต่เท่าที่เห็นในเวอร์ชั่นนี้แล้วเฟชอบก็คือความจริงใจของปริศนา เขาเป็นคนที่จริงใจต่อตัวเองและคนรอบข้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่เฟชื่นชมในตัวเขา แล้วก็เป็นคนมีความรับผิดชอบ ส่วนความร่าเริงและเฟรนด์ลี่ก็ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม